บริษัท จักรไพศาล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ JAK จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2546 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) (หุ้นสามัญจำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท) ภายใต้ชื่อบริษัทว่า “บริษัท เอเชียธนสินลิสซิ่ง จำกัด” เพื่อประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ โดยบริษัทก่อตั้งและอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของคุณวีระพันธ์ จักรไพศาล ต่อมาในปี 2548 คุณวีระพันธ์ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณวีระพันธ์ จักรไพศาล เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทโดยเริ่มต้นจากการพัฒนาโครงการอาคารพาณิชย์ในจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี โครงการหมู่บ้านจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดในจังหวัดสระบุรีและฉะเชิงเทรา และโครงการคอนโดมิเนียมความสูงไม่เกิน 8 ชั้น (Low rise) ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเน้นทำเลที่มีศักยภาพ การคมนาคมสะดวก การออกแบบที่ทันสมัย การใช้งานที่ลงตัว และให้ความสำคัญกับคุณภาพของงานก่อสร้างตลอดจนการจัดการระบบสุขาภิบาลอย่างเป็นระเบียบในทุกโครงการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความสุขและความประทับใจให้แก่ลูกค้าจึงทำให้โครงการของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2558 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท เอเชียธนสิน จำกัด” และในปีเดียวกันนี้บริษัทได้ยุติการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ เพื่อหันมาดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบเพียงอย่างเดียว
ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2561 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท จักรไพศาล เอสเตท จำกัด” ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน 2562 บริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และได้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จาก 100.00 บาทต่อหุ้น เป็น 1.00 บาทต่อหุ้น รวมทั้งได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 237,290,100 บาท (สองร้อยสามสิบเจ็ดล้านสองแสนเก้าหมื่นหนึ่งร้อยบาทถ้วน) เป็น 320,000,000 บาท (สามร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) โดยได้ดำเนินการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 82,709,900 หุ้น และเสนอขายให้แก่ประชาชนเมื่อวันที่ 8, 11 และ 12 มกราคม 2564 ที่ราคาหุ้นละ 1.45 บาท รวมมูลค่าการเสนอขาย 119,929,355 บาท บริษัทได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระเป็น 320,000,000 บาท (สามร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 บริษัทได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ให้หุ้นสามัญของบริษัทเข้าทำการซื้อ ขาย โดยใช้ชื่อย่อว่า JAK”